การปรับตัวของร้านค้าให้เข้ากับเทรนด์ E-commerce 2022
ในปัจจุบันแนวโน้มการขายของบนระบบออนไลน์เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลกระทบให้ผู้คนไม่กล้าออกไปใช้ชีวิตข้างนอกบ้านตามปกติหรือซื้อสินค้านอกบ้านเหมือนเคย จากเดิมที่คนเราต้องการซื้อสินค้าอะไรก็ตาม สามารถเดินทางไปซื้อได้ที่หน้าร้าน หรือ ตามห้างสรรพสินค้าได้เลย แต่เมื่อมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 หลายๆคนต้องเปลี่ยนพฤติกรรม และหันมาเลือกซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น ไม่ใช่เพียงเพราะแค่กลัวการออกไปใช้ชีวิตข้างนอกแล้วจะติดเชื้อไวรัสเท่านั้น แต่ทั้งยังประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางออกไปข้างนอกอีกด้วย นอกจากนั้นผู้ประกอบการในยุค COVID เองก็ต้องปรับตัวในกิจการของตนเองเพื่อให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ในยุค COVID แม้จะไม่มีลูกค้ามาซื้อที่หน้าร้านเหมือนเมื่อก่อน แต่หลายๆร้านมีการเพิ่มช่องทางการขายตาม Platform ออนไลน์เพื่อเพิ่มยอดขาย วันนี้ผมเลยมีทริคให้กับร้านค้าเพื่อปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ E-commerce 2022 มาฝากครับ 🙂
1.Digital Payment การจ่ายเงินต้องมีหลายช่องทางให้เลือก ใช้งานง่าย สะดวกและไม่ซับซ้อน
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของผู้ประกอบการทั่วโลก ที่ต้องมาคำนึงถึงความปลอดภัยของวิธีการชำระเงิน ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าในช่วงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่จากการชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยเงินสดเปลี่ยนมาเป็นการชำระเงินผ่าน Digital Payment แทน อีกทั้งเทคโนโลยีด้าน Payment Gateway ที่ก้าวหน้าทำให้ผู้บริโภคมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อรองรับกับการเติบโตของระบบ E-commerce ที่เติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ ร้านค้าออนไลน์หลายๆร้านจึงมีการปรับตัวในด้านของระบบ Digital Payment เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแทนการใช้เงินสดให้มีความสะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น เช่น การ Scan จ่ายผ่าน Qr Code , การจ่ายผ่าน Credit Card , Wechat หรือ Paypal นอกจากนี้ร้านค้ายังสามารถพัฒนาฟังก์ชัน จดจำการชำระเงินของลูกค้า เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อสินค้าซ้ำได้โดยที่ไม่ต้องกรอกข้อมูลการชำระเงินใหม่ให้ยุ่งยากอีกด้วยครับ
2.Logistics ส่งไว เลือกสถานที่ส่งได้และราคาถูก
นับว่าเป็นผลประโยชน์ของผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ เนื่องจากการแข่งขันในธุรกิจขนส่งในปัจจุบันแข่งขันตัดราคาต่ำกว่าต้นทุนเพื่อสร้างโอกาสในการหาลูกค้า ทำให้ร้านค้ามีทางเลือกในการใช้บริการขนส่งมากขึ้น ซึ่งร้านค้าเองก็ต้องเลือกขนส่งที่มีจุดเด่นคือ ส่งไว ราคาถูกกว่าขนส่งอื่นๆ เพื่อสามารถลดต้นทุนต่อออเดอร์ของร้านได้ ซึ่งมีหลายขนส่งที่เริ่มปรับตัวให้เข้ากับตลาด E-commerce ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น ใน Fulfillment หลายๆที่ได้กำหนดนโยบายส่งสินค้าแบบ Same day กล่าวคือ ลูกค้าสั่งสินค้าเมื่อคืน สินค้าจะถูกส่งถึงหน้าบ้านในช่วงเช้า นอกจากจะช่วยทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจในการส่งของที่รวดเร็วของขนส่งแล้ว ยังสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าต่อร้านค้าเอง ซึ่งอาจจะทำให้ลูกค้าอยากกลับมาซื้อซ้ำได้อีกครับ
ข้อมูลของสินค้าต้องมีความแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร ไม่ยาวจนเกินไป เนื้อหาในข้อความเข้าใจได้ง่าย ไม่กำกวม มีการบอกรายละเอียดของสินค้าอย่างชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าใจข้อมูลของสินค้าอย่างถูกต้องเพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะหากลูกค้าอยากทราบข้อมูลของสินค้า แต่ใน Information มีบอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว ก็จะทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้ทันทีครับ
3.ข้อมูล Information ของสินค้า เข้าใจง่าย เรียบง่าย ชัดเจน สะดุดตาและอ่านแล้วเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
ข้อมูลของสินค้าต้องมีความแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร ไม่ยาวจนเกินไป เนื้อหาในข้อความเข้าใจได้ง่าย ไม่กำกวม มีการบอกรายละเอียดของสินค้าอย่างชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าใจข้อมูลของสินค้าอย่างถูกต้องเพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะหากลูกค้าอยากทราบข้อมูลของสินค้า แต่ใน Information มีบอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว ก็จะทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้ทันทีครับ
จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จะเห็นได้ชัดว่า หากร้านค้าออนไลน์สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า (Customer Experience) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำ และ ดึงดูดการตัดสินใจซื้อจากลูกค้าใหม่ได้ นอกจากนี้จะทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อร้านค้า ซึ่งร้านค้าสามารถปรับตัวเพื่อให้เข้ากับเทรนด์ E-commerce 2022 ได้อย่างง่ายดายและตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยเริ่มตั้งแต่การชำระเงินที่สะดวกสบาย สามารถทำธุรกรรมได้บนสมาร์ทโฟนภายในระยะเวลาไม่กี่นาที ต่อมาด้วยเรื่องขนส่งที่ร้านค้าออนไลน์สามารถเลือกใช้บริการได้ โดยเลือกขนส่งที่มั่นใจในคุณภาพเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค โดยคำนึงถึงผู้รับสินค้าที่มองภาพรวมถึงร้านค้าเองด้วย หากขนส่งมีการส่งของได้เร็วและสินค้าไม่เสียหาย ลูกค้าก็จะมีความประทับใจต่อร้านค้ามากยิ่งขึ้น และสุดท้ายคือข้อมูลของสินค้าที่ร้านค้าต้องทำให้น่าสนใจ เข้าใจได้ง่าย มีความแตกต่างจากร้านค้าอื่นๆเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อกับร้านค้าของเรานั่นเองครับ ซึ่งหากร้านค้าไม่มีเวลาเพียงพอที่จะทำ Solutions เหล่านี้ การเลือกใช้บริการ Fulfillment เพื่อทำหน้าที่จัดการออเดอร์แทนร้านค้า อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายต่อผู้ประกอบการเอง ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีและกำลังมาแรงในตอนนี้เลยล่ะครับ 🙂
สนใจใช้บริการ fulfillment สามารติดต่อได้ที่
Tel: 02-278-2900
Line:@dpxecommerce
Email: [email protected]
วันจันทร์ ถึง ศุกร์ 08.30-17.00 และวันเสาร์ 08.30-16.00
หรือ คลิกที่นี่ เพื่อสอบถามค่าบริการและขอรับคำปรึกษา
ผู้ให้บริการ fulfillment ชั้นนำ ของประเทศไทย การันตีด้วยการทำงานมาตรฐานระดับโลก และลูกค้าชั้นนำมากมาย เชื่อมต่อครบทุกแพลตฟอร์มชั้นนำ
ติดต่อเรา
60 อาคาร dpx ซอยอารีย์ 5 เหนือ
ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท
เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
จันทร์ – ศุกร์ 8.30-17.00
เสาร์ 8.30 – 16.00
Tel: 02-278-2900
Fax: 02-278-2600
Email: [email protected]